หลักการและคำศัพท์ของแสง

ในการเลือกหลอดไฟประหยัดพลังงานที่ดีที่สุดสำหรับบ้านของคุณ คุณควรเข้าใจหลักการพื้นฐานของ แสง เสียก่อน อย่างเช่น คุณภาพแสง การบริโภคพลังงาน ปริมาณแสง หลักการของแสงเบื้องต้น อย่างเช่น

ปริมาณแสง

ความสว่าง (Illumination)

แสง ที่กระจายออกไปยังพื้นผิวระนาบ ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจุดไฟคือการสร้างแสงสว่าง

Lumens

ลูเมน (Lumen)

ลูเมนคือหน่วยวัดการแผ่กระจายแสงของหลอดไฟ ตัวอย่างเช่น หลอดไฟ 100 วัตต์ จะแพร่กระจาย แสง 1600 ลูเมน

Footcandle

ฟุตเทียน (Footcandle)

ฟุตเทียน  คือหน่วยวัดของความหนาแน่นของแสงสว่าง 1 ฟุตเทียน คือแสงสว่างที่ถูกผลิตขึ้นมา 1 ลูเมน กระจายแสงได้พื้นที่ 1 ตารางฟุต บ้านรวมถึงสำนักงานส่วนใหญ่ก็จะใช้หลอดไส้ร้อนที่มี 30–50 ฟุตเทียน ซึ่งก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับการใช้งานอย่างอื่นที่ต้องการรายละเอียด ความสว่าง 200 ฟุตเทียน ถึงจะเหมาะสมและไม่ปวดตา ส่วนหลอดไฟที่เปิดตามทางเดินตอนกลางคือเพียง 5-20 ฟุตเทียน ก็เพียงพอ

การบริโภคพลังงาน

ประสิทธิภาพ

หมายถึงอัตราในการผลิต แสงสว่าง ต่อการบริโภคพลังงาน ซึ่งจะวัดตัวเลขของการสร้างลูเมนต่อการบริโภคพลังงานไฟฟ้า หรือ ลูเมนต่อวัตต์

คุณภาพของแสง

อุณหภูมิสีของแสง

อุณหภูมิสีของแสง

สีมาจากแหล่งกำเนิดแสง อย่างสีเหลืองแดงคล้ายกับเปลวไฟก็ให้รู้สึกว่าอบอุ่น และสีฟ้าเขียวเหมือนแสงจากท้องฟ้าให้ความรู้สึกเย็น ซึ่งหน่วยวัด อุณหภูมิ เป็น Kelvin (K) ซึ่งถ้าสูงกว่า (3600–5500 K) เรียกว่าเย็น และอุณหภูมิสีต่ำกว่า (2700–3000 K) จะร้อน แสงเย็นนั้นใช้ในพื้นที่ทำงาน ส่วนแสงสีเหลืองอบอุ่นนั้นใช้ในพื้นที่อยู่อาศัย เนื่องจากเข้ากับสีผิวและเสื้อผ้าได้ดี อุณหภูมิสี 2700–3600 K นั้นถูกใช้ในอาคารทั่วไป

Color Rendition

ความถูกต้องของสี (Color Rendition)

สีนั้นขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิดแสง ซึ่งนับว่าเป็นคุณภาพของแสงที่สำคัญมากกว่า อุณหภูมิ สี โดยวัตถุส่วนใหญ่นั้นไม่ได้มีเพียงสีเดียว แต่มีหลายสีผสมกันอยู่ ซึ่งแหล่งที่มาของแสงนี้เองก็มีความบกพร่องที่อาจจะส่งผลถึงการให้สีของแสงหลัก

Color Rendition Index (CRI) หรือความถูกต้องของ สี ที่ 1 - 100 สเกล ที่ใช้วัดความสามารถในการให้สีที่ถูกต้องของแหล่งกำเนิดแสงอันเป็นวิธีเดียวกับที่แสงอาทิตย์ทำ ค่าสูงสุดของสเกล CRI คือ 100 เบสจากความสว่างของหลอดไฟ 100 วัตต์ และหลอดไฟที่มี CRI เท่ากับ 80 หรือมากกว่า มักจะถูกใช้ในอาคารทั่วไป

.