Your shopping cart is empty!
การเลือกใช้งานกล้องถ่ายภาพความร้อน (Thermal Imaging Camera)
การเลือกใช้งานกล้องถ่ายภาพความร้อน (Thermal Imaging Camera)
กล้องถ่ายภาพความร้อน(Thermal Imaging Camera) กำลังกลายเป็นเครื่องมือในการใช้ตรวจสอบในอุตสาหกรรม ตรวจสอบอาคาร ซึ่งถูกนำมาใช้ในการตรวจสอบว่ามีประสิทธิภาพตรงกับสเปคหรือไม่
ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นในการใช้ตรวจวัดความร้อนในพื้นที่ที่ ไม่สามารถเข้าถึงได้หรือในพื้นที่ที่มีอันตรายในการเข้าเพื่อตรวจวัด มีทั้งแบบที่เหมาะกับงานในบ้าน ในอาคาร งานอุตสาหกรรม แสดงผลได้รวดเร็ว สามารถเก็บภาพได้ ใช้ในการตรวจสอบงานทางด้านต่างๆ เช่น ความร้อนสะสมในมอเตอร์ , หาตำแหน่งอากาศรั่วไหล,
ตรวจสอบการออกแบบโครงสร้างและหาตำแหน่งที่มีความชื้นซึมออกมา วงจรไฟฟ้าที่โอเวอร์โหลด
ยังมีการใช้งานนอกเหนือจากนี้อีกซึ่งขึ้นอยู่กับการประยุกต์ของผู้ใช้ โดยทั่วไปในปัจจุบันได้นำมาใช้ในการเพื่อหาสภาพต่างๆ
เพื่อที่จะบันทึกรูปภาพหรือวีดีโอในการทำรีพอร์ทรายงานได้
การเลือกใช้งาน
1. ควรทราบอุณหภูมิ ณ ตำแหน่งที่ต้องการการใช้งานเพราะกล้องถ่ายภาพความร้อนจะมีช่วงการวัดที่แตกต่างกัน 2 ช่วงหลักๆ
เช่น ช่วง -20~300 °C (องศาเซลเซียส) / ช่วง -50~650 °C (องศาเซลเซียส)
2. เฉดสีในการใช้งาน ที่เหมาะกับงาน
• สีรุ้ง งานทางด้านไฟฟ้า , มอเตอร์
• สีแดงเหล็ก งานทางด้านวัสดุพื้นผิวเช่นงานตรวจสอบบ้าน / ผนัง / รั่วซึม / งานเหล็ก
• สีเย็น งานทางด้านความเย็น ช่องหรือท่อหลุมอากาศ
• สีดำและสีขาว หรือสีขาวและสีดำ งานหาความแตกต่างของสีในกรณีที่สีมีความเท่าเทียมกัน
3. ความคมชัดของภาพกับการใช้งาน ถ้าเป็นงานทางด้านไฟฟ้าจะเน้นความละเอียด ตั้งแต่ 220x160 pixel ขึ้นไปเพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆได้ตรงจุด
รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานของ Spot จุดเล้งของภาพ MAX / MIN ที่จะในการวิเคราะห์ภาพได้
4. ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้งานกล้องถ่ายภาพความร้อน(Thermal Imaging Camera)
• ระยะห่างระหว่างผู้ส่องกับอุปกรณ์
• สภาพพื้นที่ที่ต้องเข้าตรวจสอบ
• สภาพมลภาวะของพื้นที่
• สภาพอากาศขณะตรวจสอบ
• แสดงสว่างบริเวณที่ตรวสอบ
ขอแนะนำ กล้องถ่ายภาพความร้อน Thermal Imaging Camera
Thermal camera ราคาถูก มี Brand FLUKE , FLIR , CEM, PONPE
- test7
- Knowledge ความรู้